กุหลาบ

กุหลาบ


กุหลาบ

ราชินีแห่งดอกไม้ (Queen of flower) ที่เราใช้สื่อความรักกันมากที่สุดในบรรดาดอกไม้ทั่วทั้งโลก ด้วยความสมบูรณ์แบบในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง สีสัน และกลิ่นหอม ทำให้กุหลาบเป็นดอกไม้ที่มีเสน่ห์มาหลายล้านปี จนกลายเป็นไม้ตัดดอกที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจระดับโลก ในประเทศเนเธอร์แลนด์ กุหลาบ มีการซื้อขายติดอันดับหนึ่งในตลาดประมูลไม้ดอกที่ใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อปี พ.ศ. 2542 ประเทศที่ผลิตกุหลาบรายใหญ่ของโลกได้แก่ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน สหรัฐอเมริกา โคลัมเบีย เอกวาดอร์ อิสราเอล เยอรมนี เคนยา ซิมบับเว เบลเยียม ฝรั่งเศส เม็กซิโก แทนซาเนีย และมาลาวี เป็นต้น ซึ่งเป็นที่น่าภูมิใจที่ดอกไม้ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเซียได้แพร่หลายไปทั่วโลก ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกกุหลาบตัดดอกประมาณ 5,500 ไร่ กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ แหล่งปลูกที่สำคัญได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ตาก นครปฐม สมุทรสาคร ราชบุรี และกาญจนบุรี มีการขยายตัวของพื้นที่มากที่สุดใน อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม พื้นที่ไม่สูงชัน และค่าจ้างแรงงานต่ำ (แรงงานต่างชาติ)

ถ้าท่านผู้อ่านสนใจจะปลูกกุหลาบ ก็สามารถติดตามรายละเอียดในบทความการปลูกกุหลาบ ที่ผู้เขียนนำข้อมูลต่างๆ เช่น สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูกกุหลาบ การขยายพันธุ์ และการดูแล เป็นต้น มาฝากท่านผู้อ่านให้ได้เรียนรู้ไปด้วยกันโดยเฉพาะมือใหม่ ซึ่งผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในสมาชิกมือใหม่หัดปลูกด้วยเช่นกันค่ะ เพราะตอนนี้มีโครงการจะปลูกไม้ตัดดอกในพื้นที่ที่มีอยู่เพื่อให้มีรายได้หมุนเวียนตลอดทั้งปี ผู้เขียนวางแผนปลูกข้าวโพดหวานญี่ปุ่น ผักสวนครัวแนวตั้ง เลี้ยงไส้เดือน และปลูกไม้ตัดดอก ในพื้นที่แปลงเดียวกัน….จึงต้องศึกษา ทดลอง และนำข้อมูลต่างๆ มาฝากกัน เดิมที ผู้เขียนมีประสบการณ์ในการปลูกกุหลาบแบบซึ้อต้นพันธุ์มาปลูกลงกระถาง ตอนนั้นปลูกด้วยความชอบดอกกุหลาบ แต่ไม่นานนักต้นก็โทรมด้วยความไม่เอาจริงเอาจัง เมื่อมีความคิดที่จะปลูกไม้ตัดดอกผสมผสานกับการทำเกษตรอื่นๆ ก็ถึงเวลาที่ต้องเอาจริงเอาจังเสียที ในครั้งนี้จะเริ่มต้นจากการเพาะเมล็ด และกำลังลุ้นอยู่ว่าเมล็ดพันธุ์จะงอกออกมาเป็นสีขาว ซึ่งเป็นสีที่โปรดปรานหรือไม่ ท่านทราบมั๊ยคะว่า กุหลาบสีขาว สื่อความหมายว่าอย่างไร (มีมาฝากด้วยค่ะ)

ดอกกุหลาบสีขาว—เป็นสีแห่งความรักที่ใสสะอาด บริสุทธิ์น่าทะนุถนอมโดยไม่คิดว่าความรักที่มอบให้ไปนั้น จะได้ความรักตอบกลับมาหรือเปล่า
ส่วนสีอื่นๆ มีความหมายดังนี้ค่ะ
ดอกกุหลาบสีแดง—ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบสีแดงอ่อนหรือสีแดงสด ใช้บอกรัก เป็นสื่อแทนใจเพื่อจะบอกให้อีกฝ่ายได้รู้ว่ามีคนกำลัง แอบปลื้มอยู่ ส่วนดอกกุหลาบสีแดงเข้ม แสดงว่าผู้ให้มีความรักที่สุดแสน จะลึกซึ้ง มั่นคง และเปี่ยมล้น เรียกได้ว่ารักไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเลยก็ว่าได้
ดอกกุหลาบสีชมพู—เป็นสีที่แสดงความโรแมนติก แสดงถึงความรักที่หวานซึ้งที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ แต่เป็นแค่เพียงรักที่ฉาบฉวยต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อแสวงหาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดเท่านั้น แบบนี้คุณสาวๆ ที่ได้กุหลาบสีชมพูจากหนุ่มคนไหนมาแล้ว ก็ควรจะใช้วิจารณญาณในการเลือกคู่อย่างรอบคอบสักหน่อย และอย่าลืมเผื่อใจไว้สักนิดนะคะ
ดอกกุหลาบสีส้ม—สื่อให้เห็นถึงความสดใส ความเป็นตัวของตัวเองของผู้รับ เมื่ออยู่ใกล้แล้วทำให้รู้สึกอบอุ่น และยังบ่งบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมาด้วย
ดอกกุหลาบสีเหลือง—เป็นตัวแทนแห่งมิตรภาพ และความห่วงใยของผู้ให้ได้ในทุกโอกาส แต่หลายคนเชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่ใช้สำหรับเยี่ยมคนป่วย
ดอกกุหลาบสีฟ้า—เชื่อว่าเป็นดอกไม้แห่งความอดทน แข็งแกร่ง และเป็นดอกไม้แห่งความฝันที่สวยงามและมั่นคงตลอดกาล
ดอกกุหลาบสีม่วง—สื่อให้เห็นถึงความสำเร็จในชีวิตและการงาน ในขณะที่บางคนกลับคิดว่ามันเป็นดอกกุหลาบที่สื่อถึงความเศร้า
ดอกกุหลาบสีดำ—หมายถึงรักนิรันดร์ (จะมีมั๊ย?)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
กุหลาบจัดเป็นไม้ดอกประเภทพุ่มผลัดใบ
ลำต้น ตั้งตรงหรือเลื้อย มีทั้งหนามและไม่มีหนามบนเปลือกลำต้น และมีความแข็งแรง
ใบ มีใบย่อย 3 ถึง 5 ใบ ใบมีสีเขียวเข้มเป็นมันและมีรอยย่นเล็กน้อย
ดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ คือ มี 2 เพศในดอกเดียวกัน มีเกสรตัวผู้และตัวเมียเป็นจำนวนมาก มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน
วิธีการจำแนกกุหลาบ
กุหลาบสามารถจำแนกได้หลายแบบ เช่น จำแนกตามสีดอก ลักษณะการเจริญเติบโต ขนาดดอก ความสูงต้น และจำแนก ตามลักษณะของดอก เป็นต้น

การจำแนกกุหลาบตามลักษณะสีของดอก แบ่งเป็น 5 ประเภท คือ

  1. Single color (ซิงเกิ้ล คัลเลอร์) มีสีเดียวตลอดทั้งกลีบ และสีเดียวกันทุกกลีบทั้งดอก เช่น พันธุ์ Christian Dior (คริสเตียน ดิออร์)
  2. Multi-color (มัลติ-คัลเลอร์) สีของกลีบดอกจะเปลี่ยนไปตามอายุการบานดอก บางช่วงอาจมีหลายสีเพราะดอกบานไม่พร้อมกัน ส่วนมากจะเป็นกุหลาบพวง เช่น พันธุ์ Sambra (แซมบร้า) หรือ Charleston (ชาร์ลตัน)
  3. Bi-color (ไบ-คัลเลอร์) ในแต่ละกลีบดอกมี 2 สี คือ กลีบด้านในสีหนึ่ง ด้านนอกอีกสีหนึ่ง เช่น พันธุ์ Forty Nine (ฟอร์ตี้ ไนน์)
  4. Blend-color (เบลนด์-คัลเลอร์) มีสีของกลีบดอกด้านในมากกว่า 2 สีขึ้นไป เช่น พันธุ์ Monte Carlo (มอนเต คาร์โล)
  5. Srtiped color (สทริพเพ่ด คัลเลอร์) ในแต่ละกลีบมีสีมากกว่า 2 สีขึ้นไป ส่วนใหญ่มักเกิดเป็นสีสลับกันเป็นเส้นตามความยาวของกลีบดอก เช่น พันธุ์ Candy Stripe (แคนดี้ สทริพ)

การจำแนกกุหลาบตามลักษณะการใช้ประโยชน์ ทางการค้าในตลาดโลก แบ่งเป็น 5 ประเภทดังนี้

  1. กุหลาบดอกใหญ่ หรือ กุหลาบก้านยาว—เป็นกุหลาบไฮบริด ที (Hybrid Tea: HT) มีขนาดดอกที่ใหญ่ มีความยาวก้านระหว่าง 50 ถึง 120 เซนติเมตร ดูแลรักษายาก ให้ผลผลิตต่ำเพียง 100 ถึง 150 ดอก ต่อตารางเมตร ต่อปี และอายุการปักแจกันสั้นกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับกุหลาบฟลอริบันดา (Floribunda) พันธุ์กุหลาบดอกใหญ่ที่เป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศได้แก่ พันธุ์ เวก้า (Vega: แดง) พันธุ์มาดาม เดลบาร์ด (Madam Delbard) พันธุ์วีซ่า (Visa: แดง) พันธุ์โรเท โรเซ (Rote Rose: แดง) พันธุ์คารล์ เรด (Carl Red: แดง) พันธุ์โซเนีย (Sonia: ชมพูส้ม) พันธุ์เฟิร์สเรด (First Red: แดง) พันธุ์โพรฟิตา (Prophyta: ปูนแห้ง) พันธุ์บิอังกา (Bianca: ขาว) พันธุ์โนเบลส (Noblesse: ชมพูส้ม) และ พันธุ์แกรนด์ กาลา (Grand Gala: แดง) เป็นต้น
  2. กุหลาบดอกกลาง หรือ กุหลาบก้านขนาดกลาง—เป็นกุหลาบชนิดใหม่ ซึ่งมีลักษณะระหว่างกุหลาบดอกใหญ่ และเล็ก เป็นกุหลาบไฮบริด ที (Hybrid Tea) ความยาวก้านอยู่ระหว่าง 40 ถึง 60 เซนติเมตร ให้ผลผลิตสูงประมาณ 150 ถึง 220 ดอก ต่อตารางเมตร ต่อปี มีอายุการปักแจกันยาว และทนต่อการขนส่งได้ดี พันธุ์ที่นิยมปลูกได้แก่ พันธุ์ ซาช่า (Sacha: แดง) พันธุ์เมอร์ซิเดส (Mercedes: แดง) พันธุ์เกเบรียล (Gabrielle: แดงสด) พันธุ์คิสส์(Kiss: ชมพู) พันธุ์โกลเด้นทาม (Goldentime: เหลือง) พันธุ์ซาฟารี(Safari: ส้ม) และ พันธุ์ซูวีเนีย (Souvenir: ม่วง) เป็นต้น
  3. กุหลาบดอกเล็ก หรือ กุหลาบก้านสั้น—เป็นกุหลาบที่ได้รับความนิยมปลูก และบริโภคกันมากในยุโรป โดยเฉพาะ เยอรมันนี และเนเธอร์แลนด์ กุหลาบก้านสั้นนี้เป็นกุหลาบฟลอริบันดา (Floribunda) มีความยาวก้านระหว่าง 30 ถึง 50 เซนติเมตร ให้ผลผลิตสูงประมาณ 220 ถึง 350 ดอก ต่อตารางเมตร ต่อปี มีอายุการปักแจกันยาว และทนต่อการขนส่งดีกว่ากุหลาบดอกใหญ่ พันธุ์ที่นิยมปลูกได้แก่ พันธุ์ฟริสโก (Frisco:เหลือง) พันธุ์เอสกิโม (Escimo: ขาว) พันธุ์โมเทรีย (Motrea: แดง) พันธุ์เซอไพรซ์ (Surprise: ชมพู) และพันธุ์แลมบาด้า (Lambada: แสด) เป็นต้น
  4. กุหลาบดอกช่อ—เป็นกุหลาบชนิดใหม่ ให้ผลผลิตต่อพื้นที่ต่ำประมาณ 120 ถึง 160 ดอก ต่อตารางเมตรต่อปี ความยาวก้านระหว่าง 40 ถึง 70 เซนติเมตร มักจะมี 4 ถึง 5 ดอกในหนึ่งช่อ และมีตลาดที่จำกัด พันธุ์ที่เป็นที่นิยม เช่น พันธุ์เอวีลีน (Evelien: ชมพู) พันธุ์เดียดีม (Diadeem: ชมพู) และ พันธุ์นิกิต้า (Nikita: แดง) เป็นต้น
  5. กุหลาบหนู—มีขนาดเล็กหรือแคระโดยธรรมชาติ ความสูงของทรงพุ่มไม่เกิน 1 ฟุต แต่ให้ผลผลิตสูงประมาณ 450 ถึง550 ดอก ต่อตารางเมตร ต่อปี มีความยาวก้านดอกระหว่าง 20 ถึง 30 เซนติเมตร และมีตลาดจำกัดอีกเช่นกัน ยกเว้นในประเทศญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ และอิตาลี

 

สายพันธุ์กุหลาบ

1. กุหลาบตัดดอกหรือไฮบริดที (Hybrid Tea หรือ HT) เป็นดอกเดี่ยวมีขนาดใหญ่ กลีบดอกซ้อน พุ่มต้นตั้งตรงสูงประมาณ 1 ถึง 2 เมตร เป็นกุหลาบที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาด แต่กุหลาบพันธุ์ไฮบริดทีนี้ ไม่ได้ใช้ปลูกเป็นไม้ตัดดอกได้ดีทุกพันธุ์ ดังนั้นจำเป็นต้องคัดเลือกพันธุ์ให้เหมาะสมสำหรับพื้นที่ ลักษณะที่เหมาะสมสำหรับจะใช้ เป็นพันธุ์สำหรับตัดดอก คือ
– แข็งแรง ต้นโต เลี้ยงง่ายและเจริญเติบโตได้ดี
– ออกดอกสม่ำเสมอ ไม่โทรมไวเมื่อถูกตัดดอกออกไปมาก ๆ
– มีความต้านทานโรคและแมลงได้ดีพอสมควร
– ลำต้นตั้งตรง ซึ่งทำให้ปลูกได้ชิดกันเป็นการประหยัดเนื้อที่
– ก้านยาวตรง มีหนามน้อย ใบงามสมดุลกับกิ่ง
– ทรงดอกดี ทรงดอกยาวแบบแจกันหรือปลายกลีบดอกแหลม
– กลีบดอกไม่ซ้อนหนาเกินไปจนดอกบานไม่ออก
– กลีบดอกหนา ทนต่อการบรรจุหีบห่อและขนส่ง
– ดอกมีสีสะดุดตาและไม่เปลี่ยนสีเมื่อดอกโรย
– ดอกไม่เหี่ยวเฉาง่ายหลังการตัด
– ดอกควรมีกลิ่นหอม

2. กุหลาบฟลอริบันดา Floribunda (FL) หรือกุหลาบพวง ได้แก่กุหลาบที่นิยมปลูกกันในแปลง หรือปลูกประดับอาคารเพื่อความสวยงาม กุหลาบพวงมีความแข็งแรงทนทานกว่ากุหลาบตัดดอก ออกดอกดกแต่ดอกไม่ใหญ่เท่ากับกุหลาบตัดดอกแต่มีครบทุกสี และออกดอกเป็นช่อทีละหลาย ๆ ดอก จึงนิยมเรียกว่ากุหลาบพวง และมักบานพร้อมกัน ดอกมีขนาดเล็ก พุ่มต้นตั้งตรงสูงประมาณครึ่งเมตรถึง 1 เมตร เหมาะสมที่จะปลูกในแปลงประดับและในกระถางเช่น พันธุ์ฟูซีเลียร์ และพันธุ์แองเจลเฟส หากเป็นพันธุ์ที่มีพวงก้านสั้น-ต้นจะเตี้ย ทรงพุ่มดี ปลูกเป็นไม้ประดับ เช่น พันธุ์วาเลนไทน์ (Valentine) พันธุ์ซัมเม่อร์ สโนว์ (Summer Snow) และพันธุ์ซิมพลิซิตี้ (Simplicity) ส่วนพันธุ์ที่มีพวงก้านยาว-ต้นเตี้ยถึงสูงปานกลาง ทรงพุ่มดี เป็นได้ทั้งไม้ตัดดอกและไม้ประดับ เช่น พันธุ์ยูโรป้า (Europa) และพันธุ์เมอร์ซิเดส (Mercedes)

3.  กุหลาบแกรนดิฟลอร่า (Grandiflora หรือ Gr. ) กุหลาบประเภทนี้เป็นกุหลาบลูกผสมระหว่างกุหลาบตัดดอก และกุหลาบพวง มีลักษณะเป็นดอกเดี่ยว แต่ดอกเล็กกว่ากุหลาบตัดดอก มีก้านยาว ต้นโต สูง และแข็งแรง เช่น พันธุ์คาเมล็อท และพันธุ์คาเสทไนท์

4. กุหลาบหนู หรือมินิอะเจอร์ (Miniature หรือ Min.) เป็นกุหลาบที่มีขนาดพุ่มต้นเล็ก สูง 1 ถึง 2 ฟุต ออกดอกเป็นพวงและดอกมีขนาดเล็ก นิยมปลูกประดับแปลง และใช้เป็นไม้กระถาง เช่น พันธุ์เบบี้ มาสเคอร์เหรด

5. กุหลาบเลื้อย หรือ ไคลมเบอร์ (Climher หรือ Cl.) กุหลาบชนิดนี้ลำต้นสูงตรง นำไปเลื้อยพันกับสิ่งต่าง ๆ ได้ ดอกมีทั้งขนาดใหญ่ และดอกเป็นพวง เช่น พันธุ์ดอนฮวน และพันธุ์ค็อกเทล

 

6. กุหลาบโพลีแอนท่า (Polyantha หรือ Pol.) เป็นกุหลาบลูกผสมระหว่างพันธุ์โรซ่า มัลติฟอร่า กับ พันธุ์โรซ่า ไชเนนซิส มีขนาดพุ่มต้นเตี้ย แข็งแรง และทนทานมาก ออกดอกเป็นพวงคล้ายกุหลาบพวง ลักษณะดอกและต้นคล้ายกุหลาบหนูแต่จะแตกต่างกับกุหลาบหนูตรงที่กุหลาบโพลีแอนท่าจะมีหูใบที่มีลักษณะของพันธุโรซ่า มัลติฟลอร่า เช่น พันธุ์วายวอน ราเบีย

7. กุหลาบแรมเบลอร์ (Rambler หรือ R) มีลำต้นยาวและอ่อนโค้งออกดอกเป็นพวง และดอกมีขนาดเล็ก เช่น พันธ์ไดโรที เปอร์กิน

8. กุหลาบพุ่ม หรือชรับโรส (Shrub หรือ S.) ได้แก่ กุหลาบพันธุ์ป่าหรือลูกผสมของพันธุ์ป่า ซึ่งมีทรงต้นเป็นพุ่ม ออกดอกเป็นช่อ ดอกมีขนาดเล็กส่วนมากมีกลีบชั้นเดียว เช่น พันธ์โรซ่า นิติด้า  โรซ่า มัลติฟลอร่า และโรซ่า รูโกซ่า

 

พันธุ์กุหลาบที่กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำให้ปลูกในพื้นที่ประเทศไทย มีดังนี้

  • พันธุ์ดอกสีแดง ได้แก่ พันธุ์บราโว พันธุ์เรดมาสเตอร์พีช พันธุ์คริสเตียนดิออร์ พันธุ์โอลิมเปียด พันธุ์นอริค้า พันธุ์แกรนด์มาสเตอร์พีช พันธุ์ปาปามิลแลนด์ และพันธุ์เวก้า
  • พันธุ์ดอกสีเหลือง ได้แก่ พันธุ์คิงส์แรนซัม พันธุ์ซันคิงส์ พันธุ์เฮสมุดสมิดท์ พันธุ์นิวเดย์ โอรีโกลด์ และพันธุ์เมลิลอน
  • พันธุ์ดอกสีส้ม ได้แก่ พันธุ์ซันดาวน์เนอร์ พันธุ์แซนดรา พันธุ์ซุปเปอร์สตาร์ หรือพันธุ์ทรอพปิคานา
  • พันธุ์ดอกสีชมพู ได้แก่ พันธุ์มิสออลอเมริกาบิวตี้ หรือมาเรีย พันธุ์คาสลาส พันธุ์ไอเฟลทาวเวอร์ พันธุ์สวาทมอร์ พันธุ์เฟรนด์ชิพ พันธุ์เพอร์ฟูมดีไลท์ พันธุ์จูวังแซล พันธุ์เฟิร์สท์ ไพรซ์ พันธุ์อเควเรียส และพันธุ์ซูซานแฮมเชียร์
  • พันธุ์ดอกสีขาว ได้แก่ พันธุ์ไวท์คริสต์มาส เอทีนา
  • พันธุ์ดอกสีอื่นๆ ได้แก่ พันธุ์แยงกี้ดูเดิ้ล พันธุ์ดับเบิ้ลดีไลท์ และพันธุ์เบลแอนจ์
  • พันธุ์กุหลาบสำหรับเด็ดดอกร้อยพวงมาลัย เช่น กุหลาบพันธุ์ฟูซิเลียร์ ซึ่งมีดอกสีส้ม

ฝากติดตามบทความ ‘การขยายพันธุ์กุหลาบ’ ‘การปลูกกุหลาบ และ การดูแลกุหลาบ หลังการปลูก ด้วยนะคะ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : คลิ๊กที่นี่
(แหล่งข้อมูล : www.ku.ac.th, www.gotoknow.org, www.thaikasetsart.com, www.pennungseed.com, https://sites.google.com (บ้านสวนกุหลาบ))

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *